Tuesday, August 4, 2009

"หวัด มหันตภัยใกล้ตัวคุณ!!!"





เกิดการระบาดสร้างความอกสั่นขวัญกระเจิงให้หมู่มวลมนุษยชาติทั่วโลกอีกแล้ว สำหรับโรคภัยไข้เจ็บที่มีคำว่า “หวัด” เกี่ยวข้องด้วย จาก “หวัดนก” ล่าสุดเปลี่ยนมาเป็น “หวัดหมู” ดังที่คนไทยคงทราบข่าวกันแล้ว...

นี่ก็เป็นการตอกย้ำว่าอย่าประมาทโรคที่เกี่ยวกับ “หวัด”

เพราะมันเป็น “โรคอมตะ” ที่ไม่เคยหายไปจากโลก ?!?

ทั้งนี้ โรคหวัดที่คุกคามมนุษย์นับแต่อดีตจนปัจจุบันนั้นมีหลายชนิด มีทั้งหวัดธรรมดาที่ไม่น่ากลัว เพราะแค่ทำให้อ่อนเพลีย-น้ำมูกไหล-ไอ-เจ็บคอ ไปจนถึงหวัดร้ายแรงที่ทำให้ผู้ป่วย “เสียชีวิต” ได้ง่าย ๆ ที่ไม่กลัวไม่ได้

“หวัด” ถ้าเป็นแบบธรรมดาไม่มีคำอื่นต่อท้าย จะเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคภัยไข้เจ็บที่มนุษย์เป็นกันมาก บางรายอาจเป็นปีละหลาย ๆ ครั้ง โดยโรคหวัดนั้นเกิดจากเชื้อไวรัส (virus) ที่มีอยู่มากกว่า 120 ชนิด หรือเกือบ 200 ชนิด ซึ่งถ้าเป็นหวัดธรรมดาโดยปกติการเกิดโรคหวัดแต่ละครั้งนั้นจะเกิดจากเชื้อ ไวรัสเพียงชนิดเดียว และเมื่อเป็นแล้วร่างกายมนุษย์ก็จะมีภูมิต้านทานต่อไวรัสหวัดชนิดที่เป็น แต่ก็สามารถเป็นหวัดได้อีกจากไวรัสหวัดชนิดอื่น ๆ

ไวรัสหวัดหรือเชื้อหวัดนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุด แพร่จากคนที่เป็นหวัดไปติดคนอื่นที่ไม่ได้เป็นได้ง่าย ๆ เช่นโดยการไอ จาม ทางน้ำมูก ทั้งนี้ เชื้อไวรัสหวัดที่ทำให้เกิดโรค ซึ่งเป็น “โรคระบบทางเดินหายใจ” จำแนกแยกแยะเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้ราว 9 กลุ่ม และแต่ละกลุ่มยังอาจแยกได้อีกเป็นสิบ ๆ รวมแล้วจึงมีมากกว่า 100 ชนิด ซึ่งก็จะทำให้ร่างกายมนุษย์เกิดโรค-เกิดอาการต่าง ๆ กันตามแต่ชนิดและสภาพความแข็งแรง-อ่อนแอของผู้ที่ติดเชื้อ

เช่น... คัดจมูก, น้ำมูกไหล, จาม, ไอ, มีไข้, เจ็บคอ, คออักเสบ, ปวดหัว, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, ปวดหู, หอบ, หลอดลมอักเสบ, ปอดอักเสบ ซึ่งการติดเชื้อหวัดก็สามารถทำให้เกิดหลาย ๆ อาการร่วมกันได้ ซึ่งถ้าเป็นน้อยระดับอาการก็น้อย ถ้าเป็นหนักอาการก็หนักตาม ดังที่เรา ๆ ท่าน ๆ ทราบ ๆ กัน

“หวัดใหญ่” หวัดแบบนี้รุนแรง ไม่กลัวไม่ได้ ระบาดได้ตลอดปี ซึ่งก็มีคนไทยป่วยกันไม่น้อย และเสียชีวิตเพราะมันอยู่เนือง ๆ อย่างเมื่อปี 2551 มีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในไทย 14,320 ราย เสียชีวิตไป 3 ราย อีกทั้งปัจจุบันก็ยังพบผู้ป่วยหวัดใหญ่ในไทยเกือบทุกเดือน โดยเชื้อไวรัสหวัดใหญ่ที่พบในไทยมีทั้งสายพันธุ์บี และสายพันธุ์เอ (ไวรัสยังมีสายพันธุ์ซีด้วย) ที่มีหลายชนิด เช่น เอช 1 เอ็น 1 หรือ เอช 3 เอ็น 2 ที่ใกล้เคียงกับไวรัสไข้หวัดนก ซึ่งทางสาธารณสุขก็ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะไวรัสหวัดนี้ “กลายพันธุ์ได้” และก็ถือเป็นเรื่องที่ “น่ากลัว” ทีเดียว

เอช (Hem agglutinin : H) มีตั้งแต่เอช 1-เอช 15 ขณะที่เอ็น (Neuraminidase : N) มีตั้งแต่ เอ็น 1-เอ็น 9 ซึ่งจากเอช 1-เอช 15 และเอ็น 1-เอ็น 9 มันสามารถสลับจับคู่ได้ถึง 135 ชุด หรือ 135 ชนิด เจ้าเชื้อหวัดจึงไม่ธรรมดา !!

กับไวรัสหวัดใหญ่นั้น มีชื่อเรียกเฉพาะว่า อินฟลูเอ็นซา (Influenza) ทำให้เกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจอย่างเฉียบพลัน เชื้อไวรัสจะเกาะกับผิวทางเดินหายใจ และใช้เวลาแบ่งตัวราว 18-72 ชั่วโมง จากนั้นก็จะมีอาการติดเชื้อในเยื่อบุทางเดินหายใจส่วนบน คือจมูก คอ และอาจลงไปถึงส่วนล่าง คือหลอดลม ปอด จนเกิด “ภาวะแทรกซ้อน” ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและทันเวลาก็อาจทำให้ “เสียชีวิต” ได้ !!

มีรายงานว่าในแต่ละปีมีผู้ติดเชื้อหวัดใหญ่ทั่วโลกราว 10-15% ของประชากรโลกทั้งหมด การระบาดเฉพาะในท้องถิ่นมักเกิดทุก 1-3 ปี และการระบาดใหญ่ทั่วโลกจะพบทุก 10-40 ปี จากการที่เชื้อมีวิวัฒนาการ มีการผสมกันของไวรัสในคนและในสัตว์หลายชนิด เช่น หมู สัตว์ปีก ม้า

ช่วงศตวรรษที่ผ่านมามีการระบาดใหญ่ทั่วโลก 4 ครั้งคือ... พ.ศ. 2461-2462 เกิดเชื้อที่เรียกว่า สแปนิช ฟลู (Spanish flu) จากไวรัสสายพันธุ์เอ เอช 1 เอ็น 1 เป็นครั้งร้ายแรงที่สุด ผู้คนทั่วโลกป่วยถึงร้อยละ 50 และเสียชีวิตถึงราว 20 ล้านคน, พ.ศ. 2500-2501 เกิดเชื้อที่เรียกว่า เอเชียน ฟลู (Asian flu) จากไวรัสสายพันธุ์เอ เอช 2 เอ็น 2 โดยเริ่มพบในจีน, พ.ศ. 2511-2512 พบเชื้อที่เรียกว่า ฮ่องกง ฟลู (Hong Kong flu) จากไวรัสสายพันธุ์เอ เอช 3 เอ็น 2 ในฮ่องกง, พ.ศ. 2520-2521 พบ ไวรัสสายพันธุ์เอ เอช 1 เอ็น 1 ระบาดใหญ่อีกครั้ง แยกเชื้อได้จากผู้ป่วยในสหภาพโซเวียต จึงเรียกว่า รัสเซียน ฟลู (Russian flu) แต่สืบค้นแล้วมีถิ่นกำเนิดจากในจีน

“หวัดนก” หรือ เบิร์ด ฟลู (Bird Flu) นี่ยิ่งน่ากลัว ดังที่คนไทยพอจะทราบกันอยู่แล้ว โดยชนิดไวรัสที่เคยระบาดเมื่อไม่นานมานี้ในหลายประเทศ รวมถึงในไทย คือ เอช 5 เอ็น 1 ซึ่งในไทยนั้นข้อมูลจากบางแหล่งระบุว่ามีผู้เสียชีวิตไป 17 ราย จากจำนวนผู้ป่วยหลายสิบราย ถือว่ารุนแรงเป็นลำดับ 5 ของหลาย ๆ ประเทศที่เผชิญภัยนี้

“หวัดหมู” ที่กำลังระบาดล่าสุด โดยแหล่งตั้งต้นคือประเทศเม็กซิโก ซึ่ง ณ วันที่ 25 เม.ย. มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 80 ราย ติดเชื้อกว่า 1,300 คน จากรายงานข่าวเป็นไวรัสสายพันธุ์เอ ชนิด เอช 1 เอ็น 1 คล้ายหวัดใหญ่ แต่เห็นว่ามีสารพันธุกรรมเชื้อหวัดใหญ่แบบที่พบในหมูรวมอยู่ด้วย ซึ่งในรายละเอียดนั้นทาง “เดลินิวส์” ก็นำเสนอไประดับหนึ่งแล้ว

ทั้งนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรงอย่าง “ซาร์ส” ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วราว 62 ราย ป่วยกว่า 1,700 ราย ว่ากันเฉพาะโรคติดเชื้อไวรัสที่มีคำว่า “หวัด” แค่ “หวัดใหญ่-หวัดนก-หวัดหมู” สายพันธุ์-ชนิดเดิม ๆ ก็น่ากลัวพออยู่แล้ว แต่ มนุษยชาติทั่วโลกต้องกลัวการกลายพันธุ์-สายพันธุ์ใหม่ด้วย ขณะที่แม้แต่ไวรัสหวัดชนิดพื้น ๆ ธรรมดา มนุษย์ก็ยังไม่มียาฆ่ามันได้ !! ต้องรักษาผู้ป่วยแบบแก้ตามอาการ

“หวัด” ต้องถือเป็นอีกหนึ่ง “ภัยอมตะของมนุษยชาติ”

และเป็น “สงครามโรค” ที่นับวันจะน่ากลัวมากขึ้น !!!

No comments:

Post a Comment